อาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เป็นภาวะที่ร่างกายนั้นมีพลังงานที่น้อยกว่าปกติ จึงส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่เหนื่อยและอ่อนเพลียง่าย โดยอาจจะเกิดจากการที่มีการพักผ่อนมาเพียงพอ ปัญหาทางจิต หรืออีกหลาย ๆ สาเหตุ ซึ่งแม้ว่าจะมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้นกับร่างกาย และสามารถที่จะกลับมาเป็นปกติได้เองเมื่อมีการพักผ่อนให้เพียงพอ แต่อาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียนี้ หากว่ามีการเกิดติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ นั่นก็หมายถึงสัญญาณปัญหาด้านสุขภาพที่จะตามมาได้

โรค หรือ ภาวะที่ส่งผลให้เกิด อาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มีอะไรบ้าง

โรค หรือภาวะที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย และอ่อนเพลียนั้นก็มีอยู่หลายสาเหตุ ซึ่งในบทความนี้ก็ได้นำเอาตัวอย่างสาเหตุของโรคที่เกิดขึ้นมาให้ได้ทราบกัน โดยมีดังต่อไปนี้

การตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเหนื่อยง่ายในระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากว่าในช่วง 3 เดือนแรกนั้น ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนขึ้นมามาก โดยจะมีอาการปรากฏร่วมกับสัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังตั้งครรภ์ เช่น การที่มีประจำเดือนขาดไป เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ หรือปัสสาวะบ่อย เป็นต้น

โรคเบาหวาน

เบาหวาน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย โดยถือว่าเป็นอาการหลักของผู้ที่เป็นโรคนี้ นอกจากนี้ก็ยังพบว่ามีการกระหายน้ำ ปวดปัสสาวะบ่อย และน้ำหนักตัวจะลดลงอย่างรวดเร็ว หากว่ามีอาการเหนื่อยง่าย และมีความสงสัยว่าอาจจะเป็นเบาหวานก็ให้เข้ารับการตรวจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในวัยกลางคนและผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ สาเหตุเกิดจากการที่ช่องคอนั้นแคบกว่าปกติหรือปิดลงในขณะที่หลับ ทำให้เกิดการหายใจที่ยากลำบากและรบกวนการนอน เนื่องจากร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการกระตุ้นให้ตื่นเพื่อพยายามหายใจ ส่งผลให้ตื่นขึ้นมาในกลางดึกบ่อย ๆ สิ่งนี้จะทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียนั่นเอง

ภาวะไทรอยด์

ภาวะไทรอยด์ เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาการที่โดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีภาวะไทรอยด์จะมีอาการที่แสดงอย่างช้า ๆ ทำให้ไม่อาจจะสังเกตถึงอาการได้ทันที ซึ่งผู้ที่ป่วยด้วยภาวะนี้อาจจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น มีภาวะซึมเศร้า รู้สึกเจ็บหรือปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย

ภาวะซึมเศร้า

ภาวะซึมเศร้า เป็นภาวะที่มักจะทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนล้าหรืออาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อาจจะมีอาการนอนไม่หลับ หลับยากขึ้น และจะตื่นเช้ากว่าปกติ รวมถึงยังทำให้เกิดความรู้สึกที่สิ้นหวัง วิตกกังวลง่าย มีแรงขับทางเพศต่ำ หรืออาจจะมีอาการเจ็บป่วยตามร่างกายได้ด้วย

มีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงาน

ปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญพลังงานนั้น เป็นกระบวนการที่การเผาผลาญพลังงาน หรือเมตาบอลิซึมต่ำกว่าปกติ อาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนล้า และต้องการการนอนพักผ่อน อีกทั้งอาจจะแสดงถึงภาวะขาดไทรอยด์ด้วย

การขาดธาตุเหล็ก

การขาดธาตุเหล็กหรือภาวะโลหิตจาง เป็นภาวะที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยและไร้เรี่ยวแรง เนื่องจากว่าธาตุเหล็กนั้นเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง หากว่ามีเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอก็จะทำให้เลือดไม่สามารถที่จะส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ก็อาจจะทำให้หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น และตัวซีดด้วย

ภาวะเหนื่อยเรื้อรัง

ภาวะเหนื่อยเรื้อรัง เป็นภาวะที่จะส่งผลให้มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียต่อเนื่องยางนานกว่า 6 เดือน โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ อาจจะแสดงถึงภาวะเหนื่อยเรื้อรังที่แม้ว่าจะนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วก็ยังไม่หายเหนื่อย นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ บ่งบอกด้วย เช่น เจ็บคอ ปวดศีรษะ หรือปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่มีอายุ 20 ปีต้น ๆ ไปจนถึง 40 ปีกลาง ๆ อีกทั้งยังพบได้ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 13-15 ปีได้เช่นกัน

นอกจากโรคหรือภาวะต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น สาเหตุของอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ก็ยังมีอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคลมหลับ, ติดหนี้การนอน, การติดเชื้อ, การนอนดึก, การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป, การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, การรับประทานยาบางชนิด, การรักษาโรค หรืออาจจะเกิดจากการทานอาหารขยะนั่นเอง ซึ่งหากพบว่ามีอาการที่เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียบ่อย ๆ และเป็นติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการปรึกษาแพทย์ เพื่อรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อไป และเพื่อเป็นการไม่ให้ภาวะหรือโรคที่เกิดขึ้นนั้นมีอาการที่หนักเกินไปจนไม่สามารถที่จะรักษาให้หายได้นั่นเอง

By beauty